
บริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อันได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment), ด้านสังคม (Social), และด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการดำเนินงาน
ในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทจดทะเบียน บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย การลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จากปัญหาค่าครองชีพสูง ภัยพิบัติน้ำท่วม รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์ที่จัดทำโดยฝ่ายจัดการและผ่านการพิจารณาอนุมัติ จากคณะกรรมการ ภายใต้แนวทาง “Transition Towards Sustainable Growth” ที่มุ่งเน้นการสร้างองค์กรสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงสามารถ สร้างการเติบโตและเพิ่มความสมดุลในการสร้างรายได้ของธุรกิจหลักได้ตาม เป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน มาใช้ในการดำเนินงานอย่างจริงจัง
นอกเหนือจากผลการดำเนินงานของบริษัทแล้ว การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance or CG) ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บริษัทให้ความสำคัญ ในการดำเนินธุรกิจ โดยการปฏิบัติ ตามหลักธรรมาภิบาลนั้นไม่เพียงแต่ส่งเสริม ความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่ยังเป็นเครื่องมือที่กระตุ้น ให้บริษัทจดทะเบียนมีความรับผิดชอบในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ
ในปี 2567 บริษัทได้รับการประเมิน CGR ในระดับ “ดีเลิศ” จากสมาคม ส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นใน การดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ บริษัท ยังได้รับการจัดอันดับให้ติดอยู่ในกลุ่ม Top Quartile Companies ของ บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าระหว่าง 3,000-9,999 ล้านบาท ประจำปี 2567 การได้รับการประเมินในระดับนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโปร่งใสใน การบริหารงาน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและการดำเนินงาน ที่มีคุณธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรในระยะยาว
บริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อันได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment), ด้านสังคม (Social), และด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการดำเนินงาน บริษัทได้รับการคัด เลือกอยู่ในดัชนี SETESG และได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ ที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ประจำปี 2567 จากสถาบันไทยพัฒน์ และได้รับการจัดอันดับเป็นหุ้นในทำเนียบ ESG 100 ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในด้านการดำเนินงานตามหลักการความยั่งยืน นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2567 ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติการตามมาตรฐานด้าน ESG อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพื่อลดเสริมสร้างความยั่งยืนทั้งในเชิงธุรกิจและสังคม
ความสำเร็จอีกหนึ่งด้านที่บริษัทภาคภูมิใจคือ การได้รับรางวัล Investors’ Choice Award 2567 ด้วยคะแนนเต็ม 100 จากการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association) ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทในการให้ความสำคัญและการดูแลนักลงทุนและผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
ในด้านนวัตกรรม บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลผ่านการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ โดยทุ่มงบ 350 ล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าภายใน “KCG Logistics Park” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจหลังการระดมทุน IPO เพื่อเพิ่มศักยภาพให้บริษัทสามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพครบวงจรในระดับสากลด้วยเทคโนโลยี และตอบโจทย์ความยั่งยืน
ในนามของคณะกรรมการ ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า ชุมชน และผู้ให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน รวมถึงขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานของบริษัททุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ด้วยความตั้งใจในการดำเนินงานโดยยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล การกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์