สารจากประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี และพัฒนาอย่างยั่งยืน

เป็นที่ยอมรับกันว่าการดำเนินธุรกิจและการกระทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ รวมทั้งการเรียกร้องบทบาทการกำกับดูแลกิจการที่ดี ที่สร้างระดับความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย นักลงทุน และประชาชนทั่วไปกลับทวีความรุนแรงทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การพึ่งพาข้อมูลทางการเงินซึ่งยังคงเป็นสิ่งสำคัญแต่อาจไม่เพียงพอครอบคลุมต่อการตัดสินใจลงทุน ที่รอบคอบกับความท้าทายในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากปัจจัยในเรื่องดังกล่าวข้างต้น ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสสร้างมูลค่าในมิติเศรษฐกิจเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของนักลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ

KCG ได้ตระหนักและให้ความสำคัญปัจจัยด้านความยั่งยืน (Environment, Social, Governance and Economic : ESG) มาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการกระตุ้นการผนวกประเด็นการพัฒนาด้านความยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ทั้งในการปฏิบัติงานในทุกห่วงโซ่อุปทาน การตกผลิกเป็นนโยบายและกลยุทธบริษัท รวมทั้งท้ายสุดมุ่งประสงค์ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรในที่สุดด้วย

คณะกรรมการบริษัทได้จัดตั้งกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาอย่างยั่งยืน (Corporate Governance and Sustainability Committee: CG SD) มาทำหน้าที่กำกับดูแลและการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องโดยคณะกรรมการฯ มุ่งหวังจะเป็นบริษัทที่มีชื่อ และเป็นที่ยอมรับจากนักลงทุนในฐานะเป็นหุ้นอยู่ในกลุ่ม "การลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน" ทั้งในตลาดหลักทรัพย์จดทะเบียนในประเทศและต่างประเทศด้วย โดยในเบื้องต้นในปี 2567 หลังจากบริษัทเข้าจดทะเบียนและสามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 3 สิงหาคม 2566 บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 ผลประเมิน หุ้นยังยืน SET ESG Rating ระดับ "A" ผลประเมิน CGR อยู่ในระดับ 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) และติด Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่า 3,000 - 9,999 ล้านบาท จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย นอกจากนี้ ได้รับรางวัล ESG Disclosure ระดับ Acknowledgement จากสถาบันไทยพัฒน์ ด้านการเปิดเผยความยั่งยืนอีกด้วย

รายงานความยั่งยืนฉบับนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายงานประจำปีแต่ได้แยกออกมาอีกต่างหาก เป็นการแสดงความสำเร็จ ความภาคภูมิใจการร่วมแรงร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่ต่างร่วมสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และผลักดันความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้สามารถสำเร็จเป็นรูปธรรมในหลากหลายมุมมอง จึงใคร่ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ด้วย และคาดหวังจะเห็นความต่อเนื่องและการพัฒนาความเติบโต ทั้งภาคธุรกิจและมิติ ESG ผสานเป็นเนื้อเดียวกันตลอดไป

คุณพูลสวัสดิ์ เผ่าประพัธน์ และ คุณวิชาญ อมรโรจนาวงศ์
ประธานกรรมการร่วมกำกับดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาอย่างยั่งยืน
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ในช่วงปี 2567 ภาวะเศรษฐกิจไทยมีความท้าทายจากรอบด้าน ทั้งนโยบายจากรัฐบาลใหม่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความผันผวนจากเศรษฐกิจและการเมืองโลก หนี้ครัวเรือนและการชะลอตัวของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังเผชิญกับภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงสะท้อนปัญหาโลกรวนและผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจน รวมทั้งการเตรียมออกกฎหมายและข้อบังคับเพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ปัจจัยดังกล่าวทำให้ทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านความยังยืนยิ่งขึ้น ไปพร้อมกับการขยายธุรกิจในเชิงเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนยและชีส บิสกิต และผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตก มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วยกำหนดให้การพัฒนาความยั่งยืน เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัท ที่ให้ความสำคัญในการบูรณาการความยั่งยืนที่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน ด้วยความรับผิดชอบ การกำกับดูแลองค์กรที่ดี รวมถึงการดูแลด้านสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและภายนอกองค์กร

บริษัทฯ มุ่งพัฒนาด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนและการสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมองค์กรและเทคโนโลยี โดยในปี 2567บริษัทฯ เปิดดำเนินการ KCG Logistics Park เพื่อเป็นทั้งศูนย์กระจายสินค้าตามกลยุทธ์ Green Supply Chain โดย KCG Logistics Park ได้ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ ให้บริษัทสามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพครบวงจรในระดับสากล ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เพิ่มสัดส่วนการใช้ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) การร่วมมือกับคู่ค้าในการปรับเส้นทางการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ พร้อมนำระบบการทำงานและเครื่องจักรมาใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการทำงานของพนักงาน

จากการดำเนินการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับการประเมินผลหุ้นยังยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ที่ระดับ A ในกลุ่ม อุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ได้รับเลือกให้เป็น 1 ในหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 และรางวัลกิตติกรรมประกาศ Sustainability Disclosure Acknowledgement ประจำปี 2567 จากสถาบันไทยพัฒน์ ตั้งแต่ปีแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในด้านการกำกับดูแล บริษัทฯ ได้รับผลประเมิน CGR อยู่ในระดับ 5 ดาว และติด Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่า 3,000 - 9,999 ล้านบาท จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่สะท้อนความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล บริษัทฯ ตระหนักดีว่า นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเดินทางสู่ความยั่งยืน จึงยึดมั่นในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อเป็นก้าวสำคัญ

ในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาวในนามของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าที่ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมกับความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาความยั่งยืน เพื่อร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกและเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่ดีตลอดไป

คุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)