การบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน และกำหนดเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ ด้วยมุ่งมั่นในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มศักยภาพให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย ควบคู่การจัดการผลกระทบ สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการใดๆของบริษัทฯ คู่ค้าและผู้เกี่ยวข้องภายใต้ห่วงโซ่อุปทานของบริษัท ดังนั้น บริษัทฯ จัดให้มีกระบวนการตรวจสอบและประเมินคู่ค้าในมิติความยั่งยืน รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจเนื่องจากผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้ความสำคัญในการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้า ทั้งด้านการพัฒนาศักยภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกันเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันตลอดทั้งโซ่อุปทาน และนำไปสู่ความยั่งยืนร่วมกัน
เป้าหมายและผลการดำเนินงานของการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน

กลยุทธ์การบริหารงานจัดซื้อและห่วงโซ่อุปทาน
แนวทางการบริหารจัดการ
บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการดำเนินงานใดๆ ของคู่ค้า อันอาจจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายโดยรวม ไม่เพียงแต่เป้าหมายทางเศรษฐกิจ ยังจะมีผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ ความปลอดภัยของวัตถุดิบและสินค้า การฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับต่างๆ การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสร้างมลพิษหรือปัญหาทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น การจัดการของเสีย การจัดการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น ดังนั้นบริษัท ฯ จึงได้กำหนดนโยบายการบริหารโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนและบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานโดยบรูณาการความยั่งยืนกับการบริหารจัดการคู่ค้าและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการระบุคู่ค้าสำคัญ และจำแนกคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืนสูง เพื่อเป็นแนวทางในการลดความเสี่ยงจากคู่ค้า และเป็นการสร้างแนวร่วมในการพัฒนาความยั่งยืน (Environment, Social and Governance: ESG) ไปด้วยกัน
แนวทางปฏิบัติการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
บริษัทฯ ดำเนินการบริหารจัดการคู่ค้า ตามนโยบายการบริหารห่วงโซ่อปทานที่ยั่งยืน ดังนี้

แนวทางปฎิบัติการบริหารห่วงโซ่อุุปทานที่ยั่งยืน
การระบุคู่ค้าสำคัญ
- การกำหนดเกณฑ์และระบุคู่ค้าสำคัญเพื่อวิเคราะห์ความสำคัญของคู่ค้าต่อการดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ได้กำหนดเกณฑ์ในการจำแนกกลุ่มคู่ค้าที่สำคัญ เพื่อให้สามารถระบุคู่ค้าและความสำคัญได้อย่างชัดเจน และสามารถประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนและบริหารคู่ค้าได้อย่างเหมาะสม โดยมีเกณฑ์ดังนี้
1) คู่ค้าสำคัญที่ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Tier 1 Supplier) คือ คู่ค้าหลักที่มีการทำธุรกิจโดยตรงกับบริษัทฯ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ ดังนี้
- มูลค่าการซื้อวัตถุดิบอยู่ใน 80% แรกของมูลค่าการซื้อทั้งปี
- ระดับความพึ่งพาทางธุรกิจ เป็นคู่ค้าที่จำหน่าย วัตถุดิบหลักที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไม่สามารถหาทดแทนได้
- มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (ESG) เช่น การสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การละเมิด ด้านแรงงาน มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
2) ค้าสำคัญที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Non-Tier 1 Supplier) แต่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น เป็นผู้ผลิต หรือผู้ผลิตวัตถุดิบหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ของสินค้าแต่ขายสินค้าผ่านตัวแทนมายังบริษัท เป็นต้น
คู่ค้าสำคัญ และคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง
ในปี 2567 มีคู่ค้าสำคัญที่ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง Critical Tier 1 คิดเป็น 7.9% จากจำนวนคู่ค้าทั้งหมด คู่ค้าสำคัญทีไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Non-Tier 1 Supplier) คิดเป็น 0.9% จากการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้ารายสำคัญในปี 2567 ไม่พบคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง จึงไม่มีการตรวจประเมิน On-site

การขึ้นทะเบียนคู่ค้าใหม่และการคัดเลือกคู่ค้า
การสรรหาและคัดเลือกคู่ค้า
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการสรรหาและคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ด้วยความเป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนการประเมินด้านธุรกิจและคุณสมบัติด้านความยังยืน ในการคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ ทั้งนี้บริษัทฯ มีระบบ E-procurement ให้สำหรับคู่ค้ากรอกข้อมูลการสมัครและเอกสารประกอบสำคัญ ซึ่งมีการกำกับควบคุมข้อมูล และรักษาความลับทางการค้าของคู่ค้าอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่นำข้อมูลที่ได้รับไปใช้นอกเหนือวัตถุประสงค์การซื้อขายและกิจกรรมการบริหารคู่ค้า รวมทั้งป้องกันไม่ให้เปิดเผยหรือใช้อย่างไม่เหมาะสม
เกณฑ์การคัดเลือกคู่ค้าใหม่ ประกอบด้วยคะแนนในเชิงธุรกิจ อาทิ ข้อมูลทางด้านการเงิน ด้านคุณลักษณะของสินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ด้านการผลิตและกำลังการผลิต ด้านการจัดการคุณภาพ และความสามารถในการจัดส่ง เป็นต้น และประเด็นความยั่งยืนของธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยประเด็นสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยฝ่ายจัดซื้อจะพิจารณาจากการประเมินตนเอง ด้านความยั่งยืนของคู่ค้าใหม่และเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการคัดเลือกคู่ค้าเข้า Approved Vendor List และการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
- การสื่อสารจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ (Supplier Code of Conduct)
เพื่อให้คู่ค้ามีความเข้าใจและสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยังยืนตามแนวทางปฏิบัติที่ดี บริษัทฯ ได้จัดทำจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) โดยครอบคลุมสาระสำคัญด้านความยั่งยืน ได้แก่ จริยธรรมทางธุรกิจ การปฏิบัติต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน และอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางสร้างความยั่งยืนร่วมกันกับคู่ค้า
สำหรับคู่ค้าใหม่ต้องรับทราบและลงนามในจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ (Supplier Code of Ethics) ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนขยายการดำเนินการเปิดเผยจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และสร้างความร่วมมือในการดำเนินตามจรรยาบรรณที่กำหนดไว้ให้ครอบคลุมคู่ค้าในแต่ละกลุ่มให้ครบถ้วน
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้การจัดทำจริยธรรมและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าและคู่สัญญา โดยเริ่มจัดส่งให้คู่ค้ารายสำคัญ (Critical Tier 1 Supplier) 100% ตามเป้าหมายที่กำหนด และมีการวางแผนในการให้คู่ค้ารายใหม่ลงนามและขยายกลุ่มให้ครอบคลุมทุกกลุ่มต่อไป
การประเมินความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน
การประเมินคู่ค้า
บริษัทฯ มีการประเมินผลการดำเนินงานของคู่ค้าประจำปี หลังจากปฏิบัติงาน (Post Evaluation) หากคะแนนประเมินไม่เป็นไปตามที่กำหนด จะมีมาตรการเรียกร้องให้มีการปรับปรุงตามระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถปรับปรุงได้ บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อหารือกับคู่ค้า และพิจารณามาตรการปรับปรุงที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับการตรวจประเมินคู่ค้าที่สถานประกอบการ (Supplier Audit) บริษัทฯ จัดทำแผนการตรวจประเมินแบบ On-site เป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างฝ่ายจัดซื้อและฝ่ายควบคุมคุณภาพ โดยมีการคัดเลือกคู่ค้าที่พบข้อบกพร่องในการดำเนินงานหรือมีความจำเป็นต้องแก้ไขพัฒนา ทั้งด้านระบบคุณภาพและกรอบมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยสำหรับการผลิตอาหาร รวมทั้งการปฏิบัติงานต่างๆ ซึ่งจะมีการติดตามแก้ไขจนลุล่วง รวมทั้งจะมีการติดตามคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืนระดับสูง หากพิจารณาแล้วความเสี่ยงเกิดจากตัวคู่ค้าและยังไม่สามารถปรับปรุงได้ หรือทำให้เกิดความเสี่ยงและผลกระทบมายังบริษัทฯ อาจพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมหรือพิจารณาทางเลือกใหม่ทดแทน
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนการพัฒนาเกณฑ์การประเมินความเสี่ยง ESG ให้ดียิ่งขึ้น โดยได้ผนวกการประเมินความเสี่ยง ESG เข้ากับการตรวจประเมินคู่ค้าประจำปี เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการประเมินความเสี่ยง ESG สำหรับคู่ค้าในอนาคต ซึ่งได้นำร่องการตรวจประเมินกับกับคู่ค้าสำคัญกลุ่ม Critical Tier 1 และจะนำผลของการตรวจประเมิน มาใช้เป็นข้อมูลมาประกอบกับศึกษาข้อกำหนดและมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนและปรับปรุงเกณฑ์การตรวจประเมินด้าน ESG ของคู่ค้าที่เหมาะสมและครอบคลุมคู่ค้าของบริษัทฯ ในระยะยาว
การประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้า
บริษัทจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าที่อาจส่งผลต่อ มิติทางเศรษฐกิจและมิติด้านความยั่งยืน โดยประกอบด้วย
- ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสียและมลพิษ การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
- ความเสี่ยงด้านสังคม เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชนความปลอดภัยในการทำงานและอาชีวอนามัย ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
- ความเสี่ยงด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ เช่น การทุจริตคอร์รัปชั่น ข้อพิพาทด้านจริยธรรม เป็นต้น
บริษัทฯ กำหนดให้มีการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้า ทั้งการประเมินตนเองโดยคู่ค้า (Self-Assessment) กับการประเมินโดยผู้ซื้อซึ่งจะใช้หลักฐานที่เปิดเผยต่อสาธารณะสำหรับคู่ค้าต่างประเทศ หรือการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องกับคู่ค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการสำหรับคู่ค้าที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะคู่ค้าที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูง ให้มีการตรวจประเมินคู่ค้าที่สถานประกอบการแบบ On-Site เพิ่มเติม หากไม่สามารถตรวจติดตาม On-Site ได้ อย่างน้อยต้องจัดประชุม กับคู่ค้าทางออนไลน์ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงโดยเร็วที่สุด
การจัดหาวัตถุดิบหลักสำคัญอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
บริษัทฯ มีข้อกำหนดเพิ่มเติมในการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม อาทิ ไขมันนม ชีสและนมผง ผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมัน แป้งสาลี น้ำตาล โดยต้องมาจากแหล่งที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการดำเนินการจัดหาอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์นม (Dairy Products)
นำเข้าวัตถุดิบที่เป็นผลิตภัณฑ์นม อาทิ ไขมันนมชีสและนมผงจากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผู้ขายรายใหญ่ในระดับโลกที่มีการจัดการฟาร์มโคนมต้นทางให้มีการดูแลสวัสดิการสัตว์อย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานและกฎหมายทั้งในระดับประเทศและสากล อาทิ มาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติเพื่อสวัสดิภาพสัตว์สำหรับปศุสัตว์ของ ออสเตรเลีย (The Australian Animal Welfare Standards and Guidelines for Cattle) และมาตรฐานในการดูแลสวัสดิการสัตว์ของนิวซีแลนด์ (Animal Welfare (Cattle) Code of Welfare) เป็นต้น ซึ่งคู่ค้ารายใหญ่บางรายมีการนำแนวทางด้านสวัสดิภาพสัตว์จากองค์การโรคระบาดสัตว์ ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health) ซึ่งทำให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นมที่นำเข้ามามีการรับรองแหล่งผลิตและกระบวนการผลิตที่เป็นไป ตามหลักการดูแลจัดการสวัสดิภาพ สัตว์ระดับสากลและมีระบบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
- ผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมัน (Palm Oil Product)
บริษัทฯ มีการคัดเลือกน้ำมันปาล์มจากแหล่งที่ได้รับการรับรอง จาก RSPO (Roundtable Sustainable Palm Oil) หรือ มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับที่ทำมั่นใจว่าน้ำมันปาล์มที่ได้มานั้นไม่มีส่วนร่วมในการละเมิดหรือสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น ไม่ได้เกิดจากรุกล้ำหรือตัดไม้ทำลายป่า มีการดำเนินการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ลดการใช้สารเคมี กำจัดศัตรูพืช การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเหมาะสม ไม่ใช้แรงผิดกฎหมาย เคารพสิทธิมนุษยชนเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของ ลูกค้า และมุ่งพัฒนาการผลิตสินค้าด้วยน้ำมันปาล์ม RSPO ด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
- แป้งสาลี (Wheat Flour)
เนื่องจากบริษัทฯต้องนำ เข้าแป้งสาลีจากผู้เพาะปลูกจากต่างประเทศ ซึ่งอาจจะมีมาตรฐานการควบคุมการเพาะปลูก การใช้ยาฆ่าแมลง นโยบายของภาค รัฐที่ควบคุมหรือสนับสนุนเกษตรกรแตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์แป้งสาลีจึงมีความจำเป็นต้องมีระบบที่สามารถตรวจสอบ ย้อนกลับถึงที่มาของประเทศแหล่งเพาะปลูกได้ และต้องมั่นใจว่า คู่ค้ามีกระบวนการผลิตที่ป้องกันการปะปนกันของข้าวสาลีจากหลายแหล่ง แป้งสาลีที่ส่งมอบนั้นจะต้องตรวจสอบย้อนกลับไป ถึงแหล่งผลิตข้าวสาลีได้
- น้ำตาล (Sugar)
น้ำตาลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ มีพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นข้อบังคับหลัก คู่ค้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้อง และมีความรับผิดชอบต่อห่วงโซ่อุปทาน นอกจากมีนโยบายด้านความยั่งยืนแล้วยังต้องแสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ดูแลตั้งแต่เกษตรกร กระบวนการผลิต และการส่งมอบสินค้าตามแนวทางความยั่งยืนด้วย ในปัจจุบันต้องมีนโยบายการส่งเสริมการตัดอ้อยสด อีกทั้งการให้ความรู้ ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรไปจนกระทั่งการเสริมสร้างระบบนิเวศของการเพาะปลูกอ้อยอย่างยั่งยืน พื้นที่การปลูกอ้อยต้องไม่เกิดจากรุกล้ำ การตัดไม้ทำลายป่า มีการดำเนินการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีควบคุมการใช้สารเคมีสารกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลงหรือสัตว์ การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเหมาะสม ไม่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย เคารพสิทธิมนุษยชน
โดยในปี 2567 พบว่า คู่ค้าในกลุ่มวัตถุดิบหลักสำคัญทุกรายได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมในการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบหลักจากแหล่งที่เหมาะสม และไม่พบประเด็นความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่มีการตรวจประเมินติดตาม On-Site
- การจัดซื้อจัดหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Procurement Policy)
บริษัทฯ กำหนดนโยบายการจัดซื้อจัดหาที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม และจัดทำคู่มือการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในสรรหาและคัดเลือก สินค้าและบริการ ตามหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในแต่ละประเภทสินค้า เพื่อช่วยผลักดันให้คู่ค้าคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) การตัดสินใจเลือกซื้อ พัสดุหรือเลือกใช้บริการจะทำโดยพิจารณาจากพัสดุหรือบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ประกอบกับความเหมาะสมในการใช้งานตลอดจนความมีประสิทธิผลของพัสดุหรือบริการในราคาที่เหมาะสม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ในสำนักงานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ยานพาหนะ สื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์หมวดไฟฟ้าและการก่อสร้างการจัดจ้างบริการทำความสะอาด เป็นต้น
การพัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้า
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้า ทั้งด้านการพัฒนาสินค้า บริการ และบรรจุภัณฑ์ และส่งเสริมศักยภาพ และความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างยังยืนร่วมกับคู่ค้า โดยมีโครงการ
- การประชุมคู่ค้าประจำปี
เพื่อสื่อสารนโยบายทิศทางการทำงานและสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ได้จัดการประชุมคู่ค้าประจำปี (KCG Corporation Suppliers Day) ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดเป็นประจำ ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งใช้เป็นเวทีในการสื่อสาร การแลกเปลี่ยนความรู้และแนวคิดใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาความร่วมมือ ทั้งด้านธุรกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน อาทิ การร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือการปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบทางสังคม
ในปี 2567 บริษัทได้จัดงาน KCG Corporation Supplier Day ขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีคู่ค้าเข้าร่วมกว่า 130 ท่านจาก 75 บริษัท โดยบริษัทฯ ได้สื่อสารถึงการมุ่งเน้นนโยบายความยั่งยืน และศักยภาพด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้นจากการสร้าง Logistics Park โดยมีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เช่น การใช้รถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) และโครงการ Backhauling เพื่อลดความสูญเปล่าของรถเที่ยวกลับ เป็นแนวทางกับคู่ค้าพิจารณาถึงกิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีการจัดเสวนาด้านความยั่งยืนโดยเชิญคู่ค้าที่มีความโดดเด่นในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม อาทิบริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด หรือ "น้ำมันพืชกุ๊ก" น้ำมันพืชที่ได้รับตราสัญลักษณ์อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 5 (สูงสุด)เป็นรายแรกในกลุ่มน้ำมันพืช มาบรรยายถึงเส้นทางของการรับรองระบบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry และบริษัท United Container Co.,Ltd. (UCC) ได้แบ่งปันประสบการณ์การเป็นคู่ค้าของ บริษัทฯ อันยาวนาน และการปรับตัวร่วมกันเพื่อพัฒนา ด้านความยั่งยืน ผ่านโครงการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกร่วมกัน อาทิเช่น บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เนยและเบเกอรี่ของบริษัทฯ เป็นต้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคู่ค้ารายอื่นๆ ในการริเริ่มพัฒนาด้านความยั่งยืนร่วมไปกับบริษัทฯ

นโยบายและระยะเวลาเฉลี่ยของการชำระเงินให้แก่คู่ค้า
บริษัทฯ มีนโยบายการปฏิบัติต่อคู่ค้า ลูกหนี้และเจ้าหนี้ มีเจตนาที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลง สัญญาอย่างเคร่งครัดในการชำระเงิน ฝ่ายบัญชีและการเงินจะดำเนินการผ่านระบบการจ่ายเงินผ่านช่องทางธนาคาร ซึ่งจะทำให้คู่ค้ามีความเชื่อมั่นและสามารถรับเงินได้ตามกรอบเวลาที่ได้ตกลงกัน การพิจารณา ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขระยะเวลาการจ่ายเงินที่ตกลงกันนั้นอาจมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ประเภทธุรกิจหรือเงื่อนไขทางการค้าต่างๆ โดยมีแนวทางการชำระเงินขึ้นอยู่กับเครดิตเทอมที่ได้รับจากคู่ค้า ซึ่งจะถูกพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของธุรกิจ ระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจร่วมกัน รวมถึงความเหมาะสมอื่นๆของคู่ค้าประกอบกัน ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 วัน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการกำหนดรอบในการชำระเงินและสื่อสารให้กับคู่ค้าอย่างชัดเจน หากมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุใดที่อาจทำให้ไม่สามารถชำระเงินได้ตามเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะมีการแจ้งกับคู่ค้าที่ได้รับผลกระทบพร้อมเหตุผลและกำหนดการใหม่ทันที่หรือล่วงหน้าแล้วแต่สถานการณ์
ผลการดำเนินงาน

สามารถดูรายละเอียดการบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
KCG Sustainability Report 2024
ข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ปี 2567 - สรุปผลการดำเนินงานด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ